บัตรกดเงินสดใช้กดเงินสดที่ไหนได้บ้าง คิดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอย่างไร

2017/02/27 16:10 PM

4,549 Views

บัตรกดเงินสดเป็นบัตรที่เหมือนกับบัตรเครดิตแต่ในการใช้งานนั้นค่อนข้างต่างกัน เปรียบเหมือนการขอเงินกู้จากสถาบันทางการเงินแต่ไม่ได้เงินมาเป็นก้อนใหญ่ สามารถกดใช้เงินสดได้เพียงแค่ตามที่สถาบันกำหนดไว้ในแต่ละเดือนเท่านั้น ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในเรื่องการเงินได้มากยิ่งขึ้นทำให้การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันเป็นเรื่องง่ายขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว แต่มันคือการกู้ยืมอย่างหนึ่งซึ่งต้องมีอัตราดอกเบี้ยในการใช้งานอยู่แล้ว แต่หากเป็นบัตรที่ทำกับสถาบันทางการเงินที่ถูกฎหมายก็จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ตามกฎหมายกำหนดเท่านั้น

ในบางสถาบันทางการเงินก็มีโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อช่วยลดหย่อนดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าที่ใช้งานบัตรกดเงินสด ยิ่งหากเราจ่ายเงินเข้าไปตามช่วงเวลาที่กำหนดเอาไว้ ดอกเบี้ยก็จะถูกและไม่มีการเพิ่มดอกเบี้ยแต่อย่างใด แต่หากรายจ่ายชำระหนี้เข้าไปช้ากว่ากำหนดก็อาจจะมีการคิดดอกเบี้ยเพิ่มเติมเข้าไปทำให้เราสิ้นเปลืองเงินมากยิ่งขึ้น บัตรเหล่านี้จึงเปรียบเหมือนดาบสองคมหากใช้ไม่ถูกต้องและมีระเบียบในการใช้งานก็อาจจะทำให้เกิดเป็นหนี้สินพอกหางหมูได้ง่าย ดังนั้น ควรมีสติในการใช้งานบัตรประเภทนี้อยู่เสมออย่าคิดเพียงว่าใช้ไปก่อนแล้วค่อยจ่ายเข้าไปตามหลัง

ในการใช้งานบัตรกดเงินสดของแต่ละสถาบันการเงินจะมีข้อกำหนดในการกดเงินสดมาใช้งาน บางสถาบันการเงินจะต้องกดเงินกับตู้ของสถาบันการเงินเท่านั้น แต่ในบางสถาบันการเงินก็จะสามารถกดได้ทุกตู้ที่ให้บริการทั่วประเทศ อีกทั้งในบางสถาบันการเงินบัตรกดเงินประเภทนี้ยังสามารถใช้ในการผ่อนสินค้าและยังมีสิทธิ์พิเศษมากมายอยู่ภายในบัตร แต่วงเงินสดในการกดแต่ละครั้งจะมีการกำหนดเอาไว้ตามฐานเงินเดือนของผู้ทำบัตรแต่ละคน เพราะสถาบันการเงินแต่ละที่ก่อนที่จะอนุมัติบัตรจะทำการเช็คฐานเงินเดือนของผู้สมัครและทำการวิเคราะห์ว่ามีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้สินได้ในระดับไหน

คนส่วนใหญ่นิยมใช้งานบัตรกดเงินสดเพราะว่ามีความสะดวกในการใช้งานมากกว่าบัตรประเภทอื่น แม้ว่าบางคนจะมีเงินเก็บอยู่ภายในบัญชี แต่เงินเหล่านั้นอาจจะเป็นเงินเพื่อเอาไว้ใช้ในอนาคตวันข้างหน้า เงินส่วนที่จะเอาไว้หมุนใช้งานในชีวิตประจำวันหรือในยามจำเป็นจึงต้องพึ่งบัตรเหล่านี้ การใช้งานบัตรประเภทนี่ก็เหมือนกับการขอเงินกู้กับสถาบันการเงินมาใช้และมีอัตราดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งย่อมดีกว่าการไปกู้เงินแบบผิดกฎหมายที่มาพร้อมกับดอกเบี้ยที่หนัก

การยื่นขอสมัครสินเชื่อเงินสดก็ไม่ต่างจากยื่นขอสมัครบัตรเครดิตทั่วไป ผู้ยื่นสมัครบัตรกดเงินสดจะต้องเตรียมเอกสารในการสมัคร อาทิเช่น ใบรับรองเงินเดือน สำเนาบัตรประชาชนและอาจจะต้องใช้การเดินบัญชีย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 6 เดือนในการยื่นสมัคร ส่วนใหญ่แล้วเอกสารทั้งหมดเหล่านี้จะต้องใช้ประกอบในการเช็คเครดิตบูโรของผู้สมัคร ดังนั้น หากอยากสมัครให้ผ่านอย่างรวดเร็วและไม่ต้องรอการอนุมัตินานควรทำการเช็คเครดิตบูโรของตนเองแนบไปพร้อมกับเอกสารในการสมัครเลย

หากเคยมีประวัติหนี้เสียติดอยู่ที่เครดิตบูโรควรทำการเคลียร์ประวัติทางการเงินของตนเองให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปยื่นสมัครทำบัตรกดเงินสด เพราะหากยังมีประวัติหนี้เสียคาอยู่ก็ยากที่สถาบันการเงินจะทำการอนุมัติบัตรให้ได้ หรือหากเคยมีประวัติและทำการเคลียร์เรียบร้อยแล้วแต่ในเครดิตบูโรยังคงมีประวัติหนี้เสียค้างอยู่ ต้องเข้าไปติดต่อยังสถาบันการเงินที่เคยมีประวัติให้ช่วยยื่นแก้ไขประวัติเครดิตบูโรให้ก่อนเพื่อที่จะได้มีประวัติที่ขาวสะอาดและง่ายต่อการสมัครมากยิ่งขึ้น

บัตรประเภทนี้ของบางสถาบันการเงินในการกดใช้งานแต่ละครั้ง สามารถกดเงินเต็มวงเงินเพื่อนำมาใช้งานได้ แต่บัตรของบางสถาบันการเงินจะสามารถกดเงินได้ตามกำหนดของสถาบันการเงินที่ตั้งเอาไว้ต่อครั้งเท่านั้น ว่าสามารถกดเงินสดออกมาใช้ได้เท่าไหร่ ดังนั้น ก่อนที่จะสมัครบัตรประเภทนี้ควรทำความเข้าใจข้อกำหนดของบัตรแต่ละสถาบันทางการเงินให้ดีก่อนที่จะเลือกสมัครมาใช้งาน อีกทั้งอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าบัตรเหล่านี้เปรียบเหมือนดาบสองคมช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการเงินก็จริง

แต่บัตรเหล่านี้หากมีเอาไว้ใช้งานหลายใบและใช้งานเต็มวงเงินของทุกบัตรจะทำให้กลายเป็นหนี้สินก้อนใหญ่ หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานหลากหลายบัตรก็ควรเลือกสมัครเพียงแค่บัตรใบเดียวเท่านั้น เพื่อให้เหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันและไม่ต้องเป็นหนี้สินก้อนโตและสามารถผ่อนชำระคืนได้แบบสบาย ๆ แต่ไม่ใช่ว่ามีบัตรแล้วจะต้องใช้เงินเต็มวงเงินทุกครั้ง ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะกับตนเองเท่านั้นเอาไว้ใช้เต็มวงเงินในคราวจำเป็นเท่านั้น

บัตรกดเงินสดของทุกสถาบันย่อมมีค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยในการใช้งาน ในการใช้งานแต่ละครั้งควรคำนึงถึงอัตราเหล่านี้ด้วย ไม่ใช่เพียงแค่คิดถึงวงเงินในการใช้งานแต่ละรอบเท่านั้น เพราะหากไปมองแค่เพียงวงเงินในการใช้งาน เมื่อถึงเวลาที่ต้องผ่อนชำระอาจจะต้องตกใจกับดอกเบี้ยที่ต้องเสียแต่ละครั้ง ในส่วนของค่าธรรมเนียมควรศึกษาให้ดีว่าบัตรสามารถกดใช้งานกับตู้ใดได้บ้างและการกดเงินจากตู้ไหนที่จะหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมได้มากที่สุด เพราะการหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมได้ก็จะยิ่งเป็นผลดีของผู้ใช้งานบัตรในแต่ละครั้ง

บัตรกดเงินสด

  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่ (A money)A money

    รายได้ต่อเดือน
    5,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    17-25%
  • ยูโอบี แคชพลัส (UOB Cash Plus)UOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    25%
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี
  • บัตรกดเงินสด เคเคพี แคชการ์ด (KKP Cash Card)

    รายได้ต่อเดือน
    10,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    ไม่เกิน 25%

บัตรเครดิต

  • UOB PrivimilesUOB

    รายได้ต่อเดือน
    70,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • UOB Lady’s PlatinumUOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • UOB Preferred PlatinumUOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่บัตรกดเงินสด เอมันนี่
  • Citi Ready Credit
  • Citi Personal Loan
  • KTC Proud
  • Krungsri First Choice VISA

กลับสู่ด้านบน