สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนคิดจะหาเงินกู้

2017/02/28 8:29 AM

3,674 Views

เมื่อคนเรามีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินขึ้นมา ช่องทางหนึ่งที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ก็คือการหาเงินกู้ ความจำเป็นที่ทำให้เราต้องหาเงินกู้นั้นก็แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีเหมือนกัน ก็คือ เราไม่มีเงินเก็บมากพอที่จะนำไปใช้ได้ เราจึงต้องหาเงินกู้และเงินกู้ก็ย่อมมาพร้อมกับดอกเบี้ยและภาระในการชำระเงินคืนในอนาคต

แต่อย่างไรเมื่อถึงคราวจำเป็นจริง ๆ เงินกู้ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่เป็นทางเลือกให้กับคนที่มีความต้องการใช้เงินได้ ก่อนที่จะหาเงินกู้สิ่งที่เราจะต้องพิจารณาก่อนก็มีดังนี้

• ความจำเป็นของเงินกู้ ก่อนตัดสินใจจะกู้เงิน เราควรต้องคิดให้มากถึงความจำเป็นในการต้องใช้เงินก้อนนั้นว่าจำเป็นมากน้อยแค่ไหน เช่น หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการป่วยไข้ที่ต้องรักษาพยาบาลให้หายเป็นปกติแบบนี้ถือว่าจำเป็น แต่หากเป็นเรื่องที่เราจะซื้อของใช้ที่ถือว่าไม่ได้จำเป็นมากมาย เช่น กระเป๋าใบใหม่ รถยนต์คันใหม่ แบบนี้เราอาจต้องคิดให้ดีก่อนว่าที่จริงแล้วเราควรกู้เงินหรือไม่ โดยเฉพาะการกู้เงินแบบสินเชื่อเงินสดหรือบัตรกดเงินสดที่มีดอกเบี้ยสูงมาก ก่อนกู้ก็ควรพิจารณาถึงความจำเป็นให้ดีเสียก่อน

• ความสามารถในการชำระหนี้คืน เรื่องความสามารถในการชำระหนี้คืนไม่ต้องรอให้ใครมาบอกว่าเรามีหรือไม่ เราควรพิจารณาเบื้องต้นด้วยตัวเราเอง เราทราบดีว่ารายได้ต่อเดือนของเรามีเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของเราในแต่ละเดือนมีเท่าไหร่ เรามีภาระหนี้อย่างอื่นที่ต้องจ่ายชำระคืนทุกเดือนอยู่หรือไม่ หากมีเราต้องจ่ายเดือนละเท่าไหร่ ดังนั้น หากเราขอเงินกู้ก้อนใหม่นี้มา เราจะยังมีความสามารถในการชำระหนี้ได้อยู่หรือไม่ หากคำตอบคือได้ การก่อหนี้ของเราครั้งนี้ก็ไม่มีปัญหา แต่หากแม้แต่ตัวเราเองก็ยังไม่มั่นใจหรือลังเล การกู้เงินให้ครั้งนี้เรายิ่งต้องพิจารณาถึงความจำเป็นให้มากขึ้นไปอีก หากมีช่องทางอื่นที่ทำได้ เช่น หยิบยืมเพื่อนฝูงญาติพี่น้องหรือหาทรัพย์สินในบ้านไปขายก่อน เช่น สร้อยทอง ก็ควรทำก่อนที่จะตัดสินใจกู้เงินก้อนนี้

• เลือกกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีความเป็นมาตรฐาน เมื่อพิจารณาถึงความจำเป็นในการขอเงินกู้และความสามารถในการชำระหนี้ของเราแล้วว่าผ่าน ขั้นตอนต่อไปที่เราจะต้องพิจารณาก็คือเรื่องของเจ้าหนี้ที่เราจะไปขอกู้ เราควรเลือกกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีความเป็นมาตรฐานอยู่ภายใต้กฎหมาย เพราะหากมีปัญหาอะไรขึ้นมายังมีช่องทางที่กฎหมายจะให้ความเป็นธรรมและช่วยเหลือเราได้ การกู้เงินจากเจ้าหนี้ที่อยู่ในระบบเช่นธนาคารหรือสถาบันการเงินนี้ย่อมต้องดีกว่าการเลือกกู้เงินนอกระบบ เพราะนอกจากสัญญากู้ยืมเงินจะไม่ได้มาตรฐานแล้ว ดอกเบี้ยยังมักคิดในอัตราที่แพงมากและหากไม่มีเงินชำระหนี้คืนก็มีโอกาสที่จะโดนทวงหนี้แบบโหดได้เช่นกัน

• เลือกที่ดอกเบี้ยคุ้มค่า ทุกวันนี้ทั้งธนาคารและสถาบันการเงินต่างก็แข่งขันกันเพื่อดึงลูกค้าให้ไปใช้บริการเงินกู้กับธนาคารหรือสถาบันของตน ดังนั้น จึงมีโปรโมชั่นเงินกู้ที่หลากหลายออกมาอยู่เรื่อย ๆ มีทุกรูปแบบ หากเรากำลังมองหาเงินกู้อยู่ก็ควรที่จะพิจารณาเปรียบเทียบประเภทของเงินกู้ให้เหมาะสมกับรูปแบบที่เราต้องการกู้เงิน อีกทั้งเรื่องของดอกเบี้ย ระยะเวลาในการชำระคืน ก็ควรใช้เพื่อพิจารณาเปรียบเทียบเพื่อให้เลือกยื่นขอกู้กับที่ที่ให้ความคุ้มค่ากับเรามากที่สุดด้วย

• เงื่อนไขและข้อกำหนดในการขอกู้เงิน ไม่เพียงแต่เราควรเลือกกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีความน่าเชื่อถือและมีความเป็นมาตรฐาน รวมถึงต้องเปรียบเทียบโปรโมชั่นและดอกเบี้ยเพื่อให้ได้เงินกู้ที่คุ้มค่าแล้ว ก่อนเลือกกู้เงินกับที่ใดควรต้องศึกษาเงื่อนไขและข้อกำหนดในการขอกู้เงินกับธนาคารนั้น ๆ เป็นอย่างดีเสียก่อน เช่น เรื่องคุณสมบัติของผู้กู้ว่าเราผ่านหลักเกณฑ์ตามนั้นหรือไม่และเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการขอยื่นก็ต้องจัดเตรียมให้เรียบร้อยเพื่อให้มีโอกาสได้รับอนุมัติเงินกู้ได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย

ยกตัวอย่างหากเราประกอบอาชีพอิสระ มีรายได้ที่ไม่แน่นอนเราก็ไม่ควรเลือกขอเงินกู้ประเภทที่ให้เฉพาะคนที่ทำงานเป็นพนักงานประจำและต้องใช้เอกสารหลักฐานทีเป็นใบเสร็จรับเงินเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน แต่ควรเลือกขอเงินกู้ประเภทที่เปิดโอกาสให้กับคนมีอาชีพอิสระขอกู้เงินได้ด้วย โดยให้ใช้หลักฐานที่เป็นบัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนได้ เป็นต้น หากเรายังมีเอกสารที่ไม่พร้อมก็ควรรอเวลาและเตรียมความพร้อมก่อนไปยื่นขอกู้จะได้ไม่เสียเวลา

• ประวัติการชำระหนี้ ก่อนคิดจะขอกู้เงินเราต้องพิจารณาถึงประวัติในการชำระหนี้ของตัวเองก่อนว่า เราเคยจ่ายหนี้ล่าช้าหรือเคยเบี้ยวหนี้ไม่จ่ายหนี้มาก่อนหรือไม่ เพราะหากเราเคยโอกาสที่เราจะขอกู้และได้รับอนุมัติในครั้งนี้ก็คงจะเป็นไปได้ยากขึ้น เราควรเช็คตรวจสอบในเรื่องประวัติหนี้ของตัวเอง หากยังมีประวัติค้างอยู่ก็ควรเคลียร์ปัญหาเก่าให้เรียบร้อยด้วยการปิดบัญชี การมีประวัติหนี้เสียกับบัตรกดเงินสดหรือสินเชื่อเงินสดรูปแบบอื่น ๆ ที่มียอดหนี้ไม่ได้มากนัก อาจมีผลทำให้เราไม่สามารถขอกู้ซื้อบ้านเมื่อถึงคราวจำเป็นก็ได้ เรื่องของประวัติในการชำระหนี้จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ไม่ว่าเราจะมีหนี้อะไรอยู่ก็ตาม ควรจ่ายหนี้ให้ตรงตามกำหนดทุกครั้งจะดีที่สุด

หากเราพิจารณาตามหลักเกณฑ์ข้างต้นแล้วผ่านทุกหัวข้อ เราก็สามารถเดินหน้าเพื่อขอเงินกู้จากธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

บัตรกดเงินสด

  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่ (A money)A money

    รายได้ต่อเดือน
    5,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    17-25%
  • ยูโอบี แคชพลัส (UOB Cash Plus)UOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    25%
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี
  • บัตรกดเงินสด เคเคพี แคชการ์ด (KKP Cash Card)

    รายได้ต่อเดือน
    10,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    ไม่เกิน 25%

บัตรเครดิต

  • UOB PrivimilesUOB

    รายได้ต่อเดือน
    70,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • UOB Lady’s PlatinumUOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • UOB Preferred PlatinumUOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่บัตรกดเงินสด เอมันนี่
  • Citi Ready Credit
  • Citi Personal Loan
  • KTC Proud
  • Krungsri First Choice VISA

กลับสู่ด้านบน