เอกสารที่จะต้องเตรียมเมื่อต้องขอเงินกู้ เอกสารใดบ้างที่มักมีปัญหาเวลาขอกู้

2017/02/28 9:43 AM

29,683 Views

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่จะต้องทำเมื่อต้องการขอเงินกู้จากธนาคารก็คือการเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อยื่นให้ธนาคารพิจารณา เงินกู้แต่ละประเภทก็จะต้องการเอกสารเพื่อพิจารณามากน้อยแตกต่างกันไป การกู้เงินจำนวนมาก ๆ อย่างเช่น กู้ซื้อบ้านหรือกู้ซื้อรถยนต์ เอกสารหลักฐานที่จะต้องเตรียมเพื่อยื่นให้กับธนาคารอนุมัติเงินกู้ก็จะมากกว่าการกู้เงินจำนวนน้อย ๆ อย่างเช่น สินเชื่อเงินสดหรือบัตรกดเงินสด

เอกสารที่ธนาคารต้องการจากผู้ขอเงินกู้ก็เพื่อวัตถุประสงค์ในการนำไปพิจารณาว่าจะอนุมัติเงินกู้ให้หรือไม่ และหากอนุมัติจะอนุมัติให้ได้ในวงเงินเท่าไหร่ เอกสารที่ธนาคารกำหนดไว้ในการขอสินเชื่อแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ เอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงรายได้และเอกสารหลักประกัน

เอกสารส่วนตัวเป็นเอกสารที่ใช้แสดงตัวตนของผู้กู้ มีดังนี้
กรณีบุคคลธรรมดา
• สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาบัตรข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ
• สำเนาทะเบียนบ้าน
• สำเนาบัตรประชาชน ของคู่สมรสและสำเนาทะเบียนสมรส (กรณีเงินกู้บ้าน)
• ใบเปลี่ยนชื่อ (ในกรณีที่มีการเปลี่ยนชื่อ แต่ไม่ได้เปลี่ยนชื่อในเอกสาร)
• สำเนาบัญชีเงินฝากหน้าแรกของธนาคารที่ต้องการให้ธนาคารโอนเงินเข้า (กรณีขอกู้เป็นเงินก้อน)

กรณีเจ้าของกิจการหรือนิติบุคคล
• สำเนาใบทะเบียนการค้า
• สำเนาหนังสือจดทะเบียนนิติบุคคลและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น

เอกสารแสดงรายได้ เป็นหลักฐานที่แสดงถึงรายได้ของผู้กู้ ธนาคารจะพิจารณาจากเอกสารรายได้ว่าผู้กู้มีความสามารถในการชำระหนี้หรือไม่ เอกสารแสดงรายได้มีดังนี้
• หากเป็นพนักงานประจำ ใช้ใบเสร็จรับเงินเงินเดือนเดือนล่าสุดหรือหนังสือรับรองเงินเดือนฉบับจริงที่ออกให้โดยบริษัทที่ทำงานอยู่ ระบุตำแหน่งและเงินเดือน
• สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปี (กรณีรับเงินเดือนเป็นเงินสด)
• หากเป็นคนทำงานอิสระ ใช้สำเนาบัญชีธนาคารที่แสดงรายการเดือนบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน หรือ 50 ทวิที่กรมสรรพากรได้ตอบรับแล้วย้อนหลัง 6 เดือน
• เอกสารรายได้อื่น ๆ (หากมี)

เอกสารหลักประกัน เป็นเอกสารที่แสดงให้ธนาคารเห็นว่าหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเงินกู้คืออะไร มีมูลค่ามากน้อยเท่าไหร่ หลักประกันเหล่านี้จะทำให้ธนาคารอนุมัติเงินกู้บนพื้นฐานว่าหากลูกหนี้มีปัญหา หลักทรัพย์เหล่านี้คือหลักทรัพย์ที่ธนาคารจะยึดเพื่อขายนำเงินมาชำระหนี้ได้
• สำเนาโฉนดที่ดินหรือหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
• หนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย
เอกสารอื่น ๆ
• สำเนาใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต หรือ สินเชื่อบุคคลเดือนล่าสุด (กรณีสมัครใช้บริการโอนยอดเพื่อปิดหนี้)

เรื่องเอกสารที่จะต้องเตรียมเพื่อยื่นขอเงินกู้นี้ หากเราเตรียมพร้อมครบถ้วน ธนาคารจะใช้เวลาพิจารณาอนุมัติได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลากับขั้นตอนในการตามเอกสาร ดังนั้น ผู้ที่ต้องการกู้เงินธนาคารควรสอบถามเจ้าหน้าที่ให้แน่นอนถึงเอกสารที่จะต้องใช้ เมื่อเตรียมครบแล้วก่อนส่งควรไล่เช็คอีกครั้งว่าครบถ้วนและไม่มีปัญหา นอกจากการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนแล้ว เอกสารที่เป็นสำเนาทุกฉบับจะต้องมีการเซ็นชื่อรับรองสำเนาถูกต้องด้วย รวมถึงกรณีขอกู้เงินแบบที่ต้องมีผู้กู้ร่วม ผู้กู้ร่วมก็จะต้องยื่นเอกสารเหมือนกับผู้กู้หลักด้วยทุกประการ

สำหรับกรณีของการขอสินเชื่อเงินสดหรือบัตรกดเงินสดจะมีเอกสารที่จะต้องยื่นเพื่อพิจารณาอนุมัติที่น้อยกว่า เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ก็จะมีเพียงเอกสารส่วนตัวของผู้กู้ที่ใช้แสดงตัวตนและเอกสารแสดงรายได้เท่านั้น นอกจากเอกสารสำคัญเหล่านี้แล้ว ธนาคารยังมักให้ผู้กู้กรอกเอกสารที่เป็นใบสมัครในการขอสินเชื่อกับธนาคารและเอกสารอนุญาตให้ธนาคารตรวจสอบข้อมูลในเครดิตบูโรของผู้ขอกู้ได้เพื่อเช็คประวัติในการชำระหนี้
ใบสมัครสินเชื่อใครว่าไม่สำคัญ

เทคนิคในการขอสินเชื่อเงินสดให้ผ่านได้แบบง่าย ๆ ก็คือ อย่าลืมกรอกข้อมูลสำคัญที่เป็นที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์บ้านหรือเบอร์ที่ทำงานที่ไม่ใช่เบอร์มือถือลงไปในใบสมัครขอสินเชื่อด้วย ที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่งและเบอร์โทรศัพท์บ้านจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารจะอนุมัติเงินกู้ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเมื่อลูกหนี้มีปัญหาธนาคารจะมั่นใจได้ว่าสามารถตามทวงเงินลูกหนี้ได้ที่ไหน
เอกสารสำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน

กรณีที่ผู้ขอสินเชื่อเงินสดหรือบัตรกดเงินสดไม่ได้เป็นพนักงานประจำ แต่เป็นเจ้าของกิจการหรือคนทำอาชีพอิสระ เอกสารแสดงรายได้ที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ธนาคารจะพิจารณา ก็คือ สำเนาบัญชีธนาคารแสดงรายการย้อนหลัง 6 เดือน เพื่อดูรายได้ที่เข้ามาในแต่ละเดือนว่ามีต่อเนื่องหรือไม่ ผู้กู้บางคนนึกว่าแค่มีรายการบัญชีธนาคารย้อนกลับไป 6 เดือน แต่ไม่ต้องมีรายการเงินเข้าแบบสม่ำเสมอก็ได้ การยื่นบัญชีธนาคารแบบนี้เข้าไปธนาคารอาจปฏิเสธเงินกู้ได้เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับอนุมัติเงินกู้จากธนาคาร บางครั้งผู้กู้อาจต้องยอมรอเวลาเพื่อเดินบัญชีรายการในธนาคารให้มีรายได้หรือเงินเข้าบ่อย ๆ เป็นเวลานานยิ่งเกินกว่าที่ธนาคารกำหนดไว้ 6 เดือน ได้ก็จะยิ่งดี โอกาสในการได้รับอนุมัติเงินกู้ก็จะสูงขึ้นด้วย

เอกสารแสดงการเสียภาษีเงินได้ใช้เป็นเอกสารแสดงรายได้
สำหรับคนทำงานที่ไม่ได้รับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารแต่รับเป็นเงินสด ใช้สำเนาแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ประจำปียื่นแทนใบเสร็จรับเงินเงินเดือนได้ หรือหากเป็นคนทำงานอิสระที่ก็ไม่มีเงินใบเสร็จรับเงินเงินเดือน ให้ใช้ 50 ทวิ ที่กรมสรรพากรได้ตอบรับแล้วย้อนหลัง 6 เดือน แทนได้เช่นกัน

เรื่องเอกสารถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ขั้นตอนการอนุมัติเงินกู้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีโอกาสในการได้รับอนุมัติสูงขึ้นด้วย ดังนั้น ผู้กู้ควรศึกษาและเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อยื่นให้กับธนาคาร สำหรับการขอสินเชื่อเงินสดหรือบัตรกดเงินสดนั้น หากเอกสารครบถ้วนขั้นตอนในการอนุมัติจะง่ายและรวดเร็วมากขนาดว่าลูกค้าบางคนยื่นเอกสาร รออนุมัติและรับบัตรกดเงินสดกลับบ้านได้ทันที

บัตรกดเงินสด

  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่ (A money)A money

    รายได้ต่อเดือน
    5,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    17-25%
  • ซิตี้ เรดดี้เครดิต (Citi Ready Credit)Citi Ready Credit

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    24-25%
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี
  • ยูโอบี แคชพลัส (UOB Cash Plus)UOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    25%
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี

บัตรเครดิต

  • ซิตี้ รีวอร์ด (Citi Rewards)Citi Rewards

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี*
    อายุคะแนนสะสม
    ไม่มีวันหมดอายุ
  • ซิตี้ แคชแบ็ก (Citi Cashback)Citi Cashback

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี*
    อายุคะแนนสะสม
    ไม่มีวันหมดอายุ
  • UOB PrivimilesUOB

    รายได้ต่อเดือน
    70,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่บัตรกดเงินสด เอมันนี่
  • Citi Ready Credit
  • Citi Personal Loan
  • KTC Proud
  • Krungsri First Choice VISA

กลับสู่ด้านบน