เทคนิคการขออนุมัติเงินกู้ให้ผ่านได้ง่าย

2017/02/28 8:27 AM

4,452 Views

เงินกู้ คือ เงินที่ฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า ผู้กู้ไปขอกู้เงินจากอีกฝ่ายหนึ่ง เรียกว่า ผู้ให้กู้ โดยผู้กู้ต้องคืนเงินตามระยะเวลาที่ตกลงไว้กับผู้ให้กู้ จำนวนเงินที่ผู้กู้คืนให้แก่ผู้ให้กู้เป็นจำนวนเงินต้นรวมกับดอกเบี้ยตามอัตราที่ตกลงกันไว้ ผู้ให้กู้โดยทั่วไป คือ สถาบันการเงินหรือธนาคาร
การกู้เงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

– การกู้เงินแบบที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หลักทรัพย์ที่นิยมนำมาค้ำประกัน ได้แก่ อาคาร บ้าน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้างหรือเงินฝากธนาคาร เป็นต้น การที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินต้องการหลักทรัพย์เพื่อค้ำประกันเงินกู้ เนื่องจากเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้กู้ไม่คืนเงินให้กับธนาคาร

– การกู้เงินแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นประเภทของสินเชื่อเงินสดที่ธนาคาร หรือสถาบันการเงินมีให้กับลูกค้า มีหลายชื่อขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร มักเป็นสินเชื่อเพื่อการอุปโภค บริโภค สินเชื่อพร้อมให้ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่ออเนกประสงค์และบัตรกดเงินสด เป็นต้น
บัตรกดเงินสดเป็นสินเชื่อเงินสดประเภทหนึ่งที่ผู้สมัครไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันและไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน สมัครง่ายและอนุมัติเร็ว เพียงแต่มีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูงและมีการคำนวณดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรกที่กดเงินออกไปใช้ จนกระทั่งถึงวันที่มีการชำระเงิน มีการคำนวณดอกเบี้ยเป็นรายวัน หากคืนเงินช้าดอกเบี้ยจะถูกคำนวณแบบทบต้นทบดอกทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยมาก ดังนั้น หากผู้ใช้บัตรกดเงินมีเงินสดควรรีบนำเงินไปชำระคืนให้กับธนาคาร

นอกจากนี้ ผู้สมัครบัตรกดเงินยังได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการกดเงิน ค่าธรรมเนียมรายปี รวมถึงค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ด้วย เมื่อสมัครแล้วสามารถใช้วงเงินที่ได้รับการอนุมัติได้ตลอดไป หากไม่กดเงินสดออกมาใช้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยให้กับธนาคาร เนื่องจากบัตรกดเงินเป็นเงินกู้ประเภทหนึ่ง ผู้ใช้เงิน คือผู้ ยืมเงิน ต้องคืนเงินที่ยืมพร้อมดอกเบี้ยให้กับธนาคาร ดังนั้น ควรคำนึงถึงความจำเป็นในการใช้เงินก่อนกดเงินสดออกมาใช้ ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อ โดยไม่เกิดประโยชน์และไม่จำเป็น เนื่องจากบัตรกดเงินมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก

การขอเงินกู้จากธนาคาร โดยทั่วไปผู้กู้จะต้องมีการเตรียมตัวที่ดีเพื่อให้การกู้เงินได้รับการอนุมัติจากธนาคาร สำหรับเทคนิคการอนุมัติเงินกู้ให้ผ่านได้ง่าย มีดังนี้

– การขอกู้เงินจากธนาคารต้องมีการเตรียมตัวที่ดีเป็นอันดับแรก นอกจากการเตรียมเอกสารแล้ว ต้องมีการเตรียมข้อมูลส่วนตัว เช่น จำนวนเงินที่ต้องการขอกู้ ความสามารถในการชำระเงิน รายได้ต่อปีของผู้กู้และระยะเวลาในการชำระเงินกู้ เป็นต้น โดยข้อมูลต่าง ๆ ควรมีความสัมพันธ์กันอย่างเหมาะสมเพื่อให้ธนาคารอนุมัติการกู้เงินให้ผ่านได้ง่าย

– ผู้ประกอบการหรือผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัว ควรมีการวางแผนการบริหารและการดำเนินธุรกิจที่ดี เนื่องจากธนาคารจะดูความสามารถในการชำระเงินของผู้ขอกู้มากกว่าดูที่หลักทรัพย์ที่ผู้ขอกู้นำมาค้ำประกัน ธนาคารไม่ได้ต้องการหลักทรัพย์ของผู้กู้ ธนาคารต้องการเพียงเงินต้นและดอกเบี้ยคืนตามกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้

– จำนวนเงินที่ขอกู้ เป็นสิ่งแรกที่ธนาคารเลือกที่จะพิจารณาก่อน ดังนั้น ผู้ขอกู้ควรต้องพิจารณาจากจำนวนเงินที่ต้องการใช้จริง ไม่ขอกู้ในจำนวนที่มากหรือน้อยเกินไปจะทำให้มีผลต่อการอนุมัติการกู้เงินจากธนาคาร

– ผู้ขอกู้ควรมีประวัติทางการเงินที่ดี ไม่ว่าจะเป็นประวัติการชำระเงินกู้ประเภทอื่น ๆ ที่เคยขอกู้มาหรือประวัติการชำระบัตรเครดิต ควรชำระเงินให้ตรงเวลาและชำระให้เต็มจำนวน การมีประวัติทางการเงินที่ดี ทำให้ธนาคารมีความเชื่อมั่นในผู้ขอกู้และทำให้การอนุมัติเงินกู้สามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดาย

– การเปิดบัญชีเงินฝากที่มีการฝากเงินมากกว่าการถอนเงิน มีเงินคงเหลืออยู่ในบัญชีเป็นจำนวนมากพอและมีการเข้า – ออกของเงินอย่างสม่ำเสมอ และสมุดบัญชีเงินฝากมีระยะเวลาการเปิดใช้นานเพื่อเป็นประวัติที่ดีทางการเงินที่ธนาคารสามารถตรวจสอบการเดินบัญชีของผู้ขอกู้ได้อีกวิธี

– หลักทรัพย์หรือบุคคลที่ผู้ขอกู้นำมาค้ำประกัน ถึงแม้ว่าธนาคารไม่ได้ต้องการหลักทรัพย์ของผู้ขอกู้ก็ตาม แต่หลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกันเป็นสิ่งที่ธนาคารสามารถมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าหากผู้ขอกู้มีปัญหาทางการเงินจริง ๆ ผู้ค้ำประกันจะทำหน้าที่ชำระหนี้แทนหรือธนาคารสามารถนำหลักทรัพย์ไปขายทอดตลาดได้

สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการขอกู้เงินจากธนาคาร ได้แก่

– เอกสารทั่วไปของผู้ขอกู้เงิน เช่น ทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) สำเนาโฉนด สำเนาสัญญาเงินกู้ หากเป็นการขอกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน ต้องมีสำเนาหนังสือจะซื้อจะขายบ้าน เป็นต้น

– เอกสารที่แสดงรายได้ของผู้ขอกู้ หากผู้ขอกู้มีรายได้จากเงินเดือน เช่น ใบเสร็จรับเงินเงินเดือนล่าสุดไม่เกิน 2 เดือน หรือจดหมายรับรองเงินเดือนและสำเนาบัญชีที่มีการนำเข้าของเงินเดือน โดยถ่ายสำเนาย้อนหลัง 6 เดือน และถ่ายปกด้านในที่มีชื่อของผู้ขอกู้เงินด้วย

– หากเป็นผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจต้องนำสำเนาหนังสือจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท รวมทั้งสำเนารายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด ไม่เกิน 6 เดือน และสำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน และสำเนาหน้าปกด้านในที่มีชื่อของผู้ขอกู้เงินด้วย

การเตรียมเอกสารให้พร้อมและการเตรียมตัวที่ดี ทำให้มีโอกาสสูงที่จะได้รับการอนุมัติการขอกู้เงินจากธนาคารได้โดยง่าย อย่าลืมว่าเมื่อกู้เงินแล้วเรามีหนี้ที่จะต้องชำระคืนพร้อมดอกเบี้ย ผู้กู้ต้องมีวินัยทางการเงินและผ่อนชำระเงินคืน หรือชำระคืนเต็มจำนวนตามกำหนดเวลาที่ได้ตกลงไว้กับธนาคาร เพื่อให้มีเครดิตและประวัติที่ดีกับธนาคารต่อไป หากในอนาคตมีความต้องการในการใช้เงินอีกจะได้รับการอนุมัติผ่านได้โดยง่าย

บัตรกดเงินสด

  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่ (A money)A money

    รายได้ต่อเดือน
    5,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    17-25%
  • ซิตี้ เรดดี้เครดิต (Citi Ready Credit)Citi Ready Credit

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    24-25%
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี
  • ยูโอบี แคชพลัส (UOB Cash Plus)UOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    25%
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี

บัตรเครดิต

  • ซิตี้ รีวอร์ด (Citi Rewards)Citi Rewards

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี*
    อายุคะแนนสะสม
    ไม่มีวันหมดอายุ
  • ซิตี้ แคชแบ็ก (Citi Cashback)Citi Cashback

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี*
    อายุคะแนนสะสม
    ไม่มีวันหมดอายุ
  • UOB PrivimilesUOB

    รายได้ต่อเดือน
    70,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่บัตรกดเงินสด เอมันนี่
  • Citi Ready Credit
  • Citi Personal Loan
  • KTC Proud
  • Krungsri First Choice VISA

กลับสู่ด้านบน