เทคนิคการปิดยอดหนี้เงินกู้

2017/02/27 13:43 PM

15,299 Views

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แหล่งเงินกู้ในปัจจุบันมีอยู่หลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อเงินสด รวมไปถึงพวกเงินด่วนนอกระบบต่าง ๆ ด้วย

เชื่อว่าหลายคนตอนนี้ที่ได้เริ่มต้น วัฏจักร การกู้หนี้ ยืมสินและกำลังผ่อนชำระอยู่คงจะต้องประสบกับปัญหาความเครียดในเรื่องของการใช้เงินกู้คืนบ้างไม่มากก็น้อย ทั้งในเรื่องของดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่มทุกเดือน จนบางครั้งก็รู้สึกว่าทำไมการผ่อนจ่ายหนี้เงินกู้จึงไม่หมดสักที แถมพอยิ่งเวลาผ่านไปนาน ๆ เข้า เงินที่เตรียมไว้ใช้หนี้ก็ดูเหมือนว่าจะจมไปกับดอกเบี้ยจนเกือบหมดสิ้น ไม่ได้ไปทบต้นให้มันน้อยลงเลยแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้นในบทความนี้ เราจะมาแชร์เทคนิคกันว่าจะทำอย่างไร จึงจะสามารถปิดยอดหนี้เงินกู้ได้สำเร็จไม่ต้องมาคอยผ่อนจ่ายทุก ๆ เดือน จนเกิดความอึดอัดใจ

เทคนิค 1 ถ้าหากว่าลูกหนี้อยากปิดยอดเงินกู้จริง ๆ ก็คือ ควรมีการเก็บเงินก้อนให้ได้เท่ากับจำนวนเงินที่เหลืออยู่ อันนี้อาจจะต้องอาศัยทักษะการคิดคำนวณเอานิดหนึ่ง ว่าถ้าเราผ่อนจ่ายหนี้เงินกู้ไปด้วยจำนวนเท่านี้ ๆ พอถึงระยะเวลาที่คาดว่าจะมีเงินเก็บมากพอจนสามารถปิดหนี้ได้ ยอดหนี้ในเวลานั้นจะเหลืออยู่เท่าไร จากนั้นก็เก็บเงินให้ได้จำนวนเท่านั้น ระหว่างนี้ต้องมีการควบคุมยอดหนี้ให้ถึงระดับที่ใช้เงินก้อนปิดได้ โดยการทยอยผ่อนจ่ายไปก่อน ตัวอย่างเช่น เราได้ทำการกู้เงินมาจำนวนหนึ่งและคิดว่าจะปิดยอดเมื่อเหลืออยู่ 50,000 บาท เราก็ต้องทำการเก็บเงินก้อนให้ได้ 50,000 พร้อม ๆ กับการทยอยจ่ายหนี้ให้เหลือ 50,000 เมื่อถึงตอนนั้นเราก็ค่อยนำเงินก้อนไปปิดยอดทั้งหมดก็เป็นอันเสร็จ ทั้งนี้ ผู้ที่คิดจะปิดยอดหนี้เงินกู้ขอให้ทำการบวกดอกเบี้ยเพิ่มเข้าไปด้วย อย่ามุ่งประเด็นไปที่เงินต้นเพียงอย่างเดียว

เทคนิค 2 คือ ควรจะมีการเข้าไปพูดคุยกับแหล่งเงินกู้ที่เราได้ไปใช้บริการมาว่า จะทำการปิดยอดหนี้เงินกู้แล้ว เพื่อที่ทางแหล่งเงินกู้จะได้ให้คำแนะนำว่าควรจะทำการปิดยอดเมื่อไร อีกทั้งบางแห่งจะมีการลดหย่อนอัตราดอกเบี้ยก่อนทำการปิดยอดให้ด้วย ทำให้ลูกหนี้อย่างเรา ๆ สามารถเก็บเงินก้อนเพื่อนำมาปิดยอดหนี้ได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีหนี้เงินกู้จากบางแหล่งที่ไม่อาจจะใช้วิธีขอเอาเงินก้อนโปะเลยได้ อันนี้ ลูกหนี้ก็คงต้องไปคุยกับแหล่งเงินกู้เอาเอง ว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างให้หนี้สินถูกบรรเทาจนลดน้อยลง

เทคนิค 3 สำหรับผู้ที่คิดจะทำการโปะหนี้เงินกู้ คือ อย่าใช้วิธีไปกู้เงินก้อนใหม่มา แล้วเอามาโปะหนี้เก่าเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการกู้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว ผ่านแหล่งเงินกู้ในระบบและนอกระบบหรือจะเป็นการยืมเงินเพื่อน พ่อแม่ ญาติพี่น้องก็ตาม ขอให้ใช้เงินที่หามาได้ด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว ข้อนี้สำคัญมาก เพราะตราบใดที่ลูกหนี้ใช้วิธีสร้างหนี้ใหม่มาลบหนี้เก่า ลูกหนี้คนนั้นย่อมอยู่ในวังวนของหนี้สินอย่างไม่จบไม่สิ้น เผลอ ๆ กลายเป็นว่าหนี้เก่าก็แก้ไม่ได้ แถมมีหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก ขอให้พยายามใช้เงินตัวเองในการแก้ไขปัญหาหนี้เงินกู้เพียงอย่างเดียวถึงจะยังไม่มีเงินก้อน แต่ก็ทำให้หนี้เงินกู้ถูกทบจนลดน้อยลง และกลายเป็นช่องทางที่ทำให้ลูกหนี้สามารถหาเงินก้อนเพื่อมาโปะหนี้ได้ตามข้อที่ 1 หรือถ้าอยากจะเร่งลบล้างหนี้สินจริง ๆ ให้ลองเข้าไปพูดคุยกับแหล่งเงินกู้ที่ใช้บริการมาว่าอยากจะลบล้างหนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีเงินมากพอ เพื่อที่ลูกหนี้และเจ้าหนี้จะได้หาทางแก้ไขปัญหาร่วมกันได้โดยที่ไม่ต้องมีหนี้ใหม่ขึ้นมาอีก

เทคนิค 4 สำหรับผู้ที่อยากจะปิดยอดหนี้เงินกู้ คือ จงใช้หนี้ให้ตรงกับสัญญาเงินกู้ที่ระบุไว้ให้ได้มากที่สุด อาจมีอาศัยช่องว่างในสัญญาบ้างก็ได้ แต่ต้องไม่ผิดแผกไปจากสัญญาที่ระบุไว้ เช่น ในกรณีที่สัญญาไม่ได้ระบุว่าแต่ละเดือนต้องใช้หนี้เท่าไร เราก็อาจจะชำระไม่เท่ากันในแต่ละเดือนก็ได้ อย่างเดือนนี้ได้เงินมาเยอะก็ใช้หนี้เยอะ แต่เดือนถัดไปได้เงินน้อย เราก็ใช้หนี้ด้วยจำนวนเงินที่น้อยตาม แต่ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาเงินกู้ แต่โดยทั่วไปถ้าเป็นแหล่งเงินกู้ในระบบมักจะระบุจำนวนเงินที่ต้องผ่อนจ่ายแต่ละเดือนมาแบบตรง ๆ เลย อันนี้อาจจะต้องจ่ายตามสัญญา พลิกแพลงไม่ได้ อย่าเผลอไปทำผิดสัญญาเด็ดขาด เพราะท่านอาจจะโดนให้ใช้หนี้ในจำนวนเงินที่มากกว่าเดิมหรือถ้าแรงกว่านั้น ท่านอาจจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายด้วย ฉะนั้น หากจะพลิกแพลงสัญญาขอให้ระวังเอาไว้ด้วย หรือทางที่ดีไปถามแหล่งเงินกู้โดยตรงเลยดีกว่าว่าถ้าจะใช้หนี้ด้วยวิธีนี้ เพื่อหาเงินมาปิดยอดหนี้ในอนาคตจะทำได้ไหมอย่าเพิ่งโชว์หัวหมอ

ไม่มีใครที่อยากจะเป็นหนี้เงินกู้ แต่เมื่อมันเป็นไปแล้วก็ต้องหาทางใช้ไปตามอัตภาพ ซึ่งเทคนิคในการใช้หนี้เพื่อปิดยอดก็เป็นไปอย่างที่บอกไว้ข้างบน แต่สิ่งสำคัญที่สุดถ้าหากว่าใครอยากจะปิดยอดหนี้เงินกู้ ก็คือ ใจ หากมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะลบล้างหนี้ของตัวเองให้หมดแล้ว เชื่อว่าต่อให้มีหนี้สินมากมายจนล้นฟ้าก็จะสามารถลบหนี้ทั้งหมดได้สำเร็จอย่างแน่นอน

บัตรกดเงินสด

  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่ (A money)A money

    รายได้ต่อเดือน
    5,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    17-25%
  • ซิตี้ เรดดี้เครดิต (Citi Ready Credit)Citi Ready Credit

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    24-25%
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี
  • ยูโอบี แคชพลัส (UOB Cash Plus)UOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    25%
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี

บัตรเครดิต

  • ซิตี้ รีวอร์ด (Citi Rewards)Citi Rewards

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี*
    อายุคะแนนสะสม
    ไม่มีวันหมดอายุ
  • ซิตี้ แคชแบ็ก (Citi Cashback)Citi Cashback

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี*
    อายุคะแนนสะสม
    ไม่มีวันหมดอายุ
  • UOB PrivimilesUOB

    รายได้ต่อเดือน
    70,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่บัตรกดเงินสด เอมันนี่
  • Citi Ready Credit
  • Citi Personal Loan
  • KTC Proud
  • Krungsri First Choice VISA

กลับสู่ด้านบน