ข้อควรระวังในการใช้บัตรกดเงินสด เพื่อป้องกันดอกเบี้ยบานปลาย

2017/02/27 13:19 PM

4,058 Views

บัตรกดเงินสดนับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้งานมีความสะดวกสบายในการใช้เงินมากยิ่งขึ้น เพราะเพียงมีบัตรชนิดนี้ก็สามารถสร้างความพร้อมในการใช้เงินได้มากยิ่งขึ้นได้ง่าย ๆ กันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามการใช้บัตรชนิดนี้ก็มีทั้งประโยชน์และโทษได้ในเวลาเดียวกัน หากผู้ใช้ใช้งานบัตรกดเงินสดอย่างไม่ระมัดระวัง ร่วมถึงไม่ใส่ใจศึกษาข้อจำกัดหรือเงื่อนไขในการใช้บัตร ทั้งดอกเบี้ย วิธีการชำระหรือข้อกำหนดต่าง ๆ ของหน่วยงานที่ออกบัตรให้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความคล่องตัวทางการเงินของผู้ใช้ได้ โดยสิ่งสำคัญที่ควรระมัดระวังการใช้บัตรกดเงินสดมีดังนี้

1.ความจำเป็นในการใช้บัตรกดเงินสด เพราะบัตรชนิดนี้ให้เงินที่ง่ายและสะดวก เพียงแค่นำบัตรไปกดเงินที่ตู้กดเงินอัตโนมัติ ก็จะได้รับเงินตามจำนวนที่ต้องการได้ทันที ทำให้บ้างครั้งผู้ใช้ก็กดนำเงินออกมาใช้ โดยไม่ดูความจำเป็นในการใช้เงินจริง ๆ แต่ใช้ตามความรู้สึกหรือสถานการณ์เฉพาะหน้าที่ทำให้ต้องการจะใช้เงินเท่านั้น ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้ผู้ใช้บัตรเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาการใช้เงินเกินตัว ซึ่งเมื่อต้องจะต้องจ่ายเงินคืนสถาบันทางการเงินที่เป็นเจ้าของก็อาจเกิดปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลังได้ง่าย ๆ

2.ศึกษาอัตราดอกเบี้ยและงวดการชำระให้ถี่ถ้วน บัตรกดเงินสดของแต่ละสถาบันทางการเงินนั้น ๆ ก็ล้วนมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน บัตรบ้างชนิดนั้นคิดอัตราแบบคงที่ทำให้อัตราการจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยของผู้ใช้งานคงที่ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะจ่ายเงินคืนหมด แต่บ้างบัตรจะมีการคิดดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอกหรืออาจกล่าวได้ว่ายิ่งจ่ายคืนมากและเร็วเท่าใดก็ยิ่งเสียดอกเบี้ยน้อยลงเท่านั้น แต่ในทางกลับกันหากไม่สามารถชำระเงินคืนได้อย่างรวดเร็ว ดอกเบี้ยก็จะทบต้นทบดอกไปเรื่อย ๆ นั้นเอง ดังนั้น แม้ว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระในการชำระของผู้ใช้ด้วยวงเงินที่เลือกชำระคืนได้ แต่ก็อาจทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้เช่นกัน

3.ดูความพร้อมในการชำระเงินและดอกเบี้ยของตนเอง เป็นที่แน่นอนว่าเมื่อคุณกู้เงินมาไม่ว่าจะผ่านวิธีของบัตรกดเงินสดหรือสินเชื่อเงินสด ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการเกิดมาซึ่งพันธะในการชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยคืนให้กับสถาบันทางการเงินเจ้าของเงินก้อนที่เราเอามาทั้งนั้น ดังนั้น ในการกู้เงินออกมาไม่ว่าเราจะมีความจำเป็นในการใช้วงเงินเท่าใดก็ตาม ก็ล้วนแต่ต้องรู้จักประมาณความสามารถของตนเองด้วยว่าสามารถชำระคืนได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดดอกเบี้ยหรือค่าปรับที่เพิ่มขึ้นมาจากการที่ผู้ใช้ไม่สามารหาเงินมาชำระคืนได้ตามจำนวนหรือตามระยะเวลาที่กำหนดได้
4.อย่าหวังพึ่งบัตรกดเงินสดหรือสินเชื่อเงินสดมาใช้กลบหนี้อื่น ๆ เพราะการกระทำเช่นนี้ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาหนี้สินของผู้ใช้บัตร แต่ยิ่งจะเป็นการเพิ่มภาระการเป็นหนี้ให้มากขึ้น เพราะเป็นเพียงการเปลี่ยนผ่านมือของเจ้าหนี้เท่านั้นและบางครั้งอาจเหมือนการหนีเสือปะจระเข้ อันเป็นการเพิ่มภาระในการชำระหนี้ของเจ้าของบัตรให้สูงขึ้นไปได้อีกด้วย

จึงจะเห็นได้ว่าการใช้บัตรกดเงินสดนั้น ก็มีข้อดีที่ความสะดวกรวดเร็วผู้ใช้สามารถรับเงินได้ทันทีเมื่อนำบัตรไปใช้ แต่หากไม่ระมัดระวังเงินสดที่ได้รับมาก็จะกลายเป็นภาระให้ต้องรับผิดชอบอย่างไม่มีวันจบได้เช่นกัน ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรคำนึงถึง คือ ความมีสติในการใช้บัตร ก่อนกดเงินออกมาใช้ทุกครั้งต้องคำนึงถึงภาระและพันธะต่าง ๆ ที่จะตามมา ซึ่งเป็นภาระที่หากไม่สามารถจัดการได้ในระยะเวลาที่กำหนดหรือต้องใช้ระยะเวลานานในการจัดการก็ควรต้องพิจารณาความจำเป็นในการใช้อย่างมีสติ รู้เท่าทันถึงผลที่จะตามมาจากการกู้เงินสดออกมาหรือบางครั้งก็ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าที่จะได้จากการกู้เงิน เพราะทุกคนล้วนมีสถานการณ์จำเป็นที่จะต้องใช้เงินสดด้วยกันทุกคน มีความมากน้อยแตกต่างกันไป ตามความจำเป็นและเหตุการณ์เฉพาะหน้า บางคนต้องกดเงินสดออกมาเพื่อใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลญาติพี่น้อง ในขณะที่บางคนต้องกู้เงินสินเชื่อออกมาเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เกิดเป็นความจำเป็นในการใช้บัตรกดเงินสดขึ้นมาได้ทุกคน แต่ก็สามารถลดภาระได้ด้วยการกดเงินออกมาเท่าที่จำเป็นจริง ๆ หรือกดให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้หรือวางแผนทางการเงินเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมเงินฉุกเฉินในส่วนนี้ให้พร้อมที่จะนำไปใช้งานอยู่เสมอนั่นเอง

อย่าลืมว่าการเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องสนุก แต่ก็นับว่าเป็นปัญหาที่ทุกคนในสังคมล้วนมีโอกาสจะต้องเผชิญกันได้ทุกคนและก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถผ่านพ้นปัญหาหนี้สินไปได้ด้วยดีกันทุกคน บางคนอาจเกิดอาการหนี้ท่วมหัว ใช้อย่างไรก็ไม่มีวันหมดได้ง่าย ๆ หากใช้อย่างไม่มีขอบเขต ไร้ซึ่งการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า รวมถึงไม่ได้ศึกษาข้อมูลหรือเงื่อนไขของการกู้ยืมเสียก่อนที่จะนำบัตรมาใช้ ทำให้เมื่อนำไปใช้แล้วกลับต้องมานั่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในภายหลัง ซึ่งบ้างครั้งก็รุนแรงเกินแก้ไขเสียแล้ว ดังนั้น เพื่อไม่ให้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ ทำผิดกับผู้ใช้งาน ผู้ใช้ทุกคนก็ควรมีสติและให้ความระมัดระวังในทุกครั้งที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ดีเสียก่อนอีกด้วยนั่นเอง

บัตรกดเงินสด

  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่ (A money)A money

    รายได้ต่อเดือน
    5,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    17-25%
  • ยูโอบี แคชพลัส (UOB Cash Plus)UOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    25%
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี
  • บัตรกดเงินสด เคเคพี แคชการ์ด (KKP Cash Card)

    รายได้ต่อเดือน
    10,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    ไม่เกิน 25%

บัตรเครดิต

  • UOB PrivimilesUOB

    รายได้ต่อเดือน
    70,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • UOB Lady’s PlatinumUOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • UOB Preferred PlatinumUOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่บัตรกดเงินสด เอมันนี่
  • Citi Ready Credit
  • Citi Personal Loan
  • KTC Proud
  • Krungsri First Choice VISA

กลับสู่ด้านบน