จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่มีเงินจ่ายคืนเงินกู้

2017/02/28 9:48 AM

4,071 Views

พูดถึงคำว่าเงินกู้ทุกคนต่างก็คงรู้ดีว่ามันเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตใครหลายคนที่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น สาเหตุหลักก็คงมาจากการมีหนี้สินติดตัวอยู่ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็แล้ว แต่พอมันนึกหาหนทางไม่ออกทำงานเงินก็ไม่พอใช้ สุดท้ายจึงจำเป็นที่จะต้องไปกู้หนี้ยืมสินด้วยวิธีการต่าง ๆ อาทิ การใช้บัตรกดเงินสดกดเงินออกมาเพื่อนำไปใช้จ่าย การทำสินเชื่อเงินสดเพื่อความจำเป็นในการที่จะต้องนำเงินมาใช้จ่ายหรือถ้าหากหนักสุด ๆ ก็คงจะเป็นการไปติดต่อกับเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบเพื่อทำการขอยืมเงินมาใช้จ่าย คราวนี้ไม่ว่าจะกรณีใดก็แล้วแต่หากว่าไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ตามที่กำหนด แน่นอนย่อมส่งผลเสียอะไรมากมายหลายอย่างตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย ลองมาดูกันง่าย ๆ ดีกว่าว่าถ้าหากไม่มีเงินมาจ่ายคืนเงินกู้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับคน ๆ นั้นกันบ้าง

1. กลายเป็นบุคคลล้มละลาย – หากคุณไม่สามารถที่จะผ่อนชำระเงินกู้ได้ตามระเบียบกฎหมายข้อบังคับคุณก็จะถูกศาลสั่งฟ้องให้เป็นคนล้มละลาย ซึ่งการล้มละลายที่ว่านั้นจะทำให้คุณไม่สามารถจัดการในสินทรัพย์ใด ๆ ของตัวเองได้เลย นอกจากนี้ ยังโดนจำกัดสิทธิ์เรื่อง ๆ ต่าง อาทิ ห้ามเดินทางไปต่างประเทศ ห้ามทำเรื่องผ่อนชำระซื้อสินค้าและอีกมากมายที่จะตามมา หากเป็นราชการก็อาจจะถูกให้ออกจากราชการได้

2. ถูกทารุณกรรมหรือถูกทำร้าย – ถ้าหากว่าเป็นหนี้นอกระบบนอกจากจะต้องเครียดกับเรื่องหนี้สินแล้ว ยังต้องระแวดระวังว่าจะโดนส่งคนมาลอบทำร้ายหรือไม่ ซึ่งหลาย ๆ กรณีก็มีให้เห็นแล้วว่าเวลาที่ไม่ยอมจ่ายนี้เงินกู้ก็มักจะโดนในลักษณะนี้บ่อยครั้ง บางครั้งอาจจะไม่ถึงขั้นเสียชีวิตแต่การที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บหนักหรือพิการก็เป็นสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นกับชีวิตอยู่แล้ว

3. มีโรคภัยไข้เจ็บตามมาอีกมากมาย – ด้วยความเครียดที่สะสมขึ้นทำให้สามารถเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เพราะร่างกายอ่อนแอ คิดมาก นอนไม่หลับ ทานอาหารได้น้อยเป็นสาเหตุของหลาย ๆ โรคอาทิ โรคซึมเศร้า, โรคความดันโลหิต, โรคเครียดและอีกสารพัดโรคที่จะสามารถตามมาได้

4. ทำให้ครอบครัวเกิดความแตกแยก – คงไม่มีใครที่จะอยากอยู่ในครอบครัวที่มีแต่ปัญหาหนี้สินอย่างแน่นอนและการที่ไม่มีเงินมาจ่ายเงินกู้ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาครอบครัวแตกแยก สามีเลิกกับภรรยา ภรรยาหนีไปมีสามีใหม่หรือการที่ลูกต้องหนีออกจากบ้าน เพราะเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเรื่องหนี้สินเป็นประจำจนกลายเป็นภาพที่ไม่อยากจะเห็นอีกต่อไป ซึ่งเรื่องเหล่านี้มันไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องภายในครอบครัวอย่างเดียว อาจจะก่อให้เกิดปัญหาแก่สังคมตามมาด้วย เพราะเด็กบางคนเมื่อหนีออกจากบ้านก็มาทำตัวเป็นนักเลงบ้าง เป็นโจรขโมยบ้างหรือติดยาเสพติดบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีและไม่สมควรเอาเสียเลยหรือบางครอบครัวก็ถูกตัดขาดจากญาติพี่น้องด้วยความที่ตัวเองเป็นคนมีหนี้สินและญาติพี่น้องไม่ต้องการที่จะรับรู้อะไรด้วย

5. หน้าที่การงานเกิดความสั่นคลอน – ยิ่งถ้าเป็นข้าราชการด้วยแล้วหากถูกศาลฟ้องล้มละลายก็เหมือนกับแทบจะต้องออกจากการทำงานราชการทันที แต่ก็ใช่ว่าการทำงานในบริษัทเอกชนจะไม่โดน แม้ว่าหากจะไม่โดนเจ้านายไล่ออก แต่การที่ต้องหลบหนีเพราะไม่มีเงินใช้หนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องออกจากหน้าที่การงานเช่นเดียวกัน

6. ไร้ที่อยู่อาศัย – การที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวมีโอกาสที่จะทำให้โดนยึดบ้านหรือที่ดินซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยหรือหากว่าไม่ได้มีทรัพย์สินเป็นบ้านหรือที่ดิน แต่การที่ต้องหลบหนีเจ้าหนี้ไปตลอดก็ทำให้กลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยด้วยเช่นเดียวกัน พอรู้ว่าเจ้าหนี้เริ่มได้กลิ่นหรือตามตัวเจอก็จะต้องหนีไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีที่อยู่แบบเป็นตัวเป็นตน

7. ก่ออาชญากรรม – จะเห็นอยู่บ่อยครั้งที่ออกข่าวมาว่ามีโจรบุกเข้าปล้นธนาคารบ้าง, ร้านทองบ้างหรือวัดเพื่อเอาเงินบริจาคบ้าง สาเหตุส่วนใหญ่ก็มักจะพูดเหมือนกันว่าต้องการนำเงินไปใช้หนี้ให้หมดไป เมื่อถูกจับได้ก็ต้องโดนลงโทษตามกฎหมายไปตามระเบียบ

8. คิดสั้นและฆ่าตัวตาย – นี่ก็เป็นอีกผลกระทบที่มักจะเห็นเป็นประจำตามข่าว เหตุเพราะเมื่อคนเราหาหนทางการใช้หนี้มาก ๆ แล้วมันคิดไม่ออก จนปัญญา อยู่ไปก็มีแต่ความทุกข์จึงทำให้เกิดการคิดสั้นและตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตายปิดฉากชีวิตตัวเองลงไปพร้อมกับหนี้สินที่มีทั้งหมด

จะเห็นได้ว่าการเป็นหนี้นั้นไม่ใช่เรื่องดีใด ๆ ทั้งสิ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นหนี้เงินกู้ หนี้จากการใช้บัตรกดเงินสดหรือหนี้จากสิณเชื่อเงินสดก็ตาม เพราะฉะนั้นถ้าหากไม่อยากเป็นหนี้เป็นสินการวางแผนทางการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญ ต้องรู้จักวางแผนการใช้เงินในแต่ละวันว่าจะต้องนำไปทำอะไรบ้างเพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ใช้อย่างประหยัดอดออมหรือบางคนแม้จะประหยัดแค่ไหนก็ยังมีเงินไม่พอใจ แนะนำว่าให้พยายามหาอาชีพเสริมทำควบคู่กันไปด้วย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีปัญหาในการไปขอกู้เงิน เพราะคิดดูว่าขนาดใช้ปกติยังไม่พอใช้แล้วถ้ายิ่งไปกู้เงินมาใช้อีกก็จะยิ่งไม่เหลืออะไรเลย

บัตรกดเงินสด

  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่ (A money)A money

    รายได้ต่อเดือน
    5,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    17-25%
  • ยูโอบี แคชพลัส (UOB Cash Plus)UOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    25%
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี
  • บัตรกดเงินสด เคเคพี แคชการ์ด (KKP Cash Card)

    รายได้ต่อเดือน
    10,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    ไม่เกิน 25%

บัตรเครดิต

  • UOB PrivimilesUOB

    รายได้ต่อเดือน
    70,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • UOB Lady’s PlatinumUOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • UOB Preferred PlatinumUOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่บัตรกดเงินสด เอมันนี่
  • Citi Ready Credit
  • Citi Personal Loan
  • KTC Proud
  • Krungsri First Choice VISA

กลับสู่ด้านบน