ไฟแนนซ์คืออะไร? ความรู้เบื้องต้นที่คุณควรทราบ


นักวางแผนการเงิน
แผนกบรรณาธิการของ FinancialField นำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับการเงินและเศรษฐกิจจากมุมมองที่ว่าเหตุการณ์เหล่านี้มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างไร และทำให้ผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องการเงินสามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดาย
สมาชิกของแผนกบรรณาธิการประกอบด้วยผู้ที่มีคุณวุฒิเป็นนักวางแผนการเงินเป็นหลัก และผู้ที่มีประสบการณ์ในการแก้ไขหนังสือและนิตยสารที่เกี่ยวข้องกับ “เงินและชีวิตความเป็นอยู่” โดยมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนตั้งแต่การวางแผนจนถึงการตีพิมพ์บทความ เพื่อให้ได้เนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้อ่าน
คุณลักษณะเด่นของ FinancialField คือการมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 150 คน เช่น นักวางแผนการเงิน ทนายความ นักบัญชีที่ได้รับการรับรอง ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภาษี นักวิเคราะห์การลงทุน ที่ปรึกษาด้านอาชีพ ฯลฯ เป็นผู้เขียนและผู้ตรวจสอบบทความ ซึ่งทำให้หัวข้อที่ยาก เช่น บำนาญ ภาษี การสืบทอดทรัพย์สิน การประกันภัย และเงินกู้ ถูกถ่ายทอดอย่างเข้าใจง่าย
ด้วยวิธีการดังกล่าว ทีมที่มีประสบการณ์ในการแก้ไขและผู้เชี่ยวชาญในด้านการเงินและเศรษฐกิจจึงสามารถสร้างเนื้อหาที่ไม่เพียงเข้าใจง่าย แต่ยังน่าสนใจและให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้
เรามุ่งมั่นที่จะเป็นคอนเซียร์จด้านการเงินที่มอบไอเดียสำหรับชีวิตที่สะดวกสบายและดียิ่งขึ้น

ประวัติการศึกษา
Assumption University
Major in Finance and International Business Management
ประวัติการทำงาน
ABeam Consulting 2013-2016
Business Analyst
Wealth Partners Group 2016-2024
Wealth Management Consultant
ที่ปรึกษาวางแผนการเงินและความมั่งคั่ง
– Tax Planning การวางแผนภาษี
– Retirement Planning การวางแผนเกษียณ
– Insurance Planning การวางแผนประกัน
– Investment Planning การวางแผนการลงทุน
– Education Planning การวางแผนการศึกษาบุตร
– Estate Planning การวางแผนส่งต่อมรดก
Certification
Assistant Financial Planner Thailand (AFPT) ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน
รีไฟแนนซ์คืออะไร?
สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจว่าการ “รีไฟแนนซ์” คืออะไร เราจะขออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ว่าการรีไฟแนนซ์คือการที่คุณย้ายไปผ่อนชำระหนี้กับสถาบันทางการเงินเจ้าใหม่แทนเจ้าเดิม เป็นการยื่นขอสินเชื่อก้อนใหม่หรือเป็นการกู้ใหม่เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ก้อนเก่าที่มีอยู่ โดยเหตุผลหลัก ๆ ของการรีไฟแนนซ์คือเพื่อให้คุณได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเดิม เป็นวิธีลดค่างวดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนให้ถูกลงกว่าเดิม ซึ่งการรีไฟแนนซ์จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ อย่างที่เราได้มีการเกริ่นไปแล้วในตอนต้น ได้แก่
รีไฟแนนซ์บ้าน
การรีไฟแนนซ์บ้านหรือการนำบ้านเข้า ไฟแนนซ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดดอกเบี้ยบ้านให้หมดไวขึ้น หรือผู้ที่ต้องการลดค่างวดบ้านในแต่ละเดือนให้ถูกลง แต่การรีไฟแนนซ์บ้านจะมีเงื่อนไขตรงที่บ้าน คอนโด หรือที่อยู่อาศัยนั้น ๆ ต้องมีการผ่อนค่างวดมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และคุณจะต้องมีเครดิตที่ดีตามเกณฑ์ของสถาบันทางการเงิน
รีไฟแนนซ์รถ
การรีไฟแนนซ์รถจะเป็นการขอสินเชื่อเพื่อย้ายไฟแนนซ์เช่นเดียวกันกับการรีไฟแนนซ์บ้าน ซึ่งการรีไฟแนนซ์รถสามารถทำได้กับทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือน และผู้ที่ต้องการให้ดอกเบี้ยรถถูกลงกว่าเดิม รวมถึงผู้ที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับตัวเองด้วย
รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
หลายคนไม่รู้ว่าบัตรเครดิตเองก็สามารถรีไฟแนนซ์ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งสินเชื่อนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ หรือผู้ที่ชำระค่างวดบัตรเครดิตคืนไม่ไหว โดยการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะเป็นการรวมหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้บัตรกดเงินสดทุกใบที่มีอยู่ให้เป็นหนี้ก้อนเดียว หลังจากขอสินเชื่อ ไฟแนนซ์ แล้ว จะเป็นการผ่อนชำระหนี้ก้อนเดียวกับสถาบันทางการเงินแห่งใหม่ ไม่ต้องจ่ายหลายยอดแยกหลายสถาบันการเงิน ทำให้ได้รับดอกเบี้ยอัตราเดียว และยอดผ่อนในแต่ละเดือนก็จะลดลงด้วย ซึ่งการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจะมีระยะเวลาในการผ่อนชำระที่ชัดเจน โดยอาจมีระยะเวลาตั้งแต่ 12 เดือนไปจนถึง 48 เดือน ทำให้คุณจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ความแตกต่างระหว่าง ไฟแนนซ์ ทั้ง 3 ประเภท
แน่นอนว่าความแตกต่างแรกของการรีไฟแนนซ์ทั้ง 3 ประเภทคือจุดประสงค์ของการรีไฟแนนซ์ แต่นอกเหนือจากจุดประสงค์แล้ว การรีไฟแนนซ์บ้านจะเป็นประเภทที่มีเงื่อนไขในการขอสินเชื่อที่ค่อนข้างยืดหยุ่นกว่า เมื่อเทียบกับอีก 2 ประเภทที่เหลือ เนื่องจากการรีไฟแนนซ์บ้านจะใช้ “บ้าน” เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันสินเชื่ออยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกันเพิ่ม ซึ่งจะต่างจากการรีไฟแนนซ์รถที่หลักทรัพย์มีมูลค่าต่ำและลดลงเร็ว หรือการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ทำให้การรีไฟแนนซ์ 2 ประเภทหลังมีความเข้มงวดกว่าการรีไฟแนนซ์บ้าน
ข้อเสียของการรีไฟแนนซ์
หากคุณอ่านมาถึงส่วนนี้ของบทความคุณจะเห็นได้ว่าทั้งการรีไฟแนนซ์บ้าน, รีไฟแนนซ์รถ และการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต มีข้อดีตรงที่ช่วยทำให้ผู้ยื่นสินเชื่อลดจำนวนเงินที่ต้องชำระหนี้ในแต่ละเดือนลงได้ แต่แน่นอนว่าการรีไฟแนนซ์ไม่ได้มีเพียงข้อดีอย่างเดียวเพราะการรีไฟแนนซ์เองก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจรีไฟแนนซ์ควรนำข้อเสียเหล่านี้ไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจด้วย
- ในการรีไฟแนนซ์อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าปรับดอกเบี้ย, ค่าปรับเงินกู้ และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เป็นต้น
- การรีไฟแนนซ์อาจทำให้ผู้กู้ต้องเพิ่มระยะเวลาในการผ่อนชำระหนี้นานขึ้นกว่าเดิม และอาจส่งผลกระทบต่อสถานะเครดิตของผู้กู้ได้เช่นกัน
- การรีไฟแนนซ์อาจทำให้ผู้กู้เสียเวลาไปกับการเดินเรื่องกับทางธนาคารและยุ่งยากในเรื่องเอกสารต่าง ๆ
สรุปบทความ ความรู้เบื้องต้นเรื่อง “ไฟแนนซ์”
สำหรับผู้ที่เริ่มรู้สึกว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนสูงจนเริ่มแบกเอาไว้ไม่ไหว แต่ไม่อยากผิดชำระหนี้กับธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน ไม่อยากมีหนี้เสียในระบบ การรีไฟแนนซ์เป็นวิธีที่จะเข้ามาช่วยให้คุณผ่านวิกฤตทางการเงินไปได้ง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ตามก่อนจะทำการรีไฟแนนซ์เรานอกจากข้อมูลข้างต้นที่เรานำมาฝากแล้ว เราอยากให้ผู้ที่สนใจกู้สินเชื่อพิจารณาถึงความคุ้มค่า ความเหมาะสม และผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการรีไฟแนนซ์ให้ดีก่อน เพราะการรีไฟแนนซ์จะทำให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระหนี้ของคุณยาวนานขึ้น และคุณอาจต้องเจอกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามที่เราได้กล่าวถึงไปในข้อเสียของการรีไฟแนนซ์
แต่หากคุณพิจารณาแล้วว่าการรีไฟแนนซ์คือทางออกที่ดีที่สุด อย่ารอช้า รีบหาข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อไฟแนนซ์ของแต่ละสถาบันทางการเงินนำมาเปรียบเทียบกันเลย หากเล็งเห็นว่าสินเชื่อไฟแนนซ์ของสถาบันทางการเงินไหนคุ้มค่า ดอกเบี้ยต่ำสุด ให้เลือกรีไฟแนนซ์กับสถาบันทางการเงินนั้น ๆ ได้เลย