เปรียบเทียบผลประโยชน์และค่าธรรมเนียมของบัตรเครดิต

2024/05/29 2:07 AM

นักเขียน: บก.เบรคฟิลด์ การกำกับดูแล: สุภณัฐ คันธะ

12 Views

หลายท่านอาจจะยังสับสนเกี่ยวกับ การใช้บัตรเครดิตและการใช้บัตรกดเงินสดอยู่ว่า บัตรทั้ง 2 ประเภทนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร อีกทั้งยังมักจะเกิดคำถามอยู่เสมอว่าการใช้บัตรเครดิตนั้นดีกว่าบัตรกดเงินสดอย่างไร เพื่อมาไขคำตอบให้กับสิ่งที่หลายท่านคาใจ บทความนี้จึงจะมาพูดถึงความแตกต่างระหว่างบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด เปรียบเทียบผลประโยชน์ที่ได้จากการใช้บัตรเครดิต และอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเครดิต ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือผู้ที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือกสมัครบัตร เครดิต หรือเลือกสมัครบัตรกดเงินสดดี ให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม
financial-field-editorial
นักเขียน: บก.เบรคฟิลด์ (แผนกบรรณาธิการของฟินแนนเชียลฟิลด์)

นักวางแผนการเงิน

แผนกบรรณาธิการของ FinancialField นำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับการเงินและเศรษฐกิจจากมุมมองที่ว่าเหตุการณ์เหล่านี้มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างไร และทำให้ผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องการเงินสามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดาย

สมาชิกของแผนกบรรณาธิการประกอบด้วยผู้ที่มีคุณวุฒิเป็นนักวางแผนการเงินเป็นหลัก และผู้ที่มีประสบการณ์ในการแก้ไขหนังสือและนิตยสารที่เกี่ยวข้องกับ “เงินและชีวิตความเป็นอยู่” โดยมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนตั้งแต่การวางแผนจนถึงการตีพิมพ์บทความ เพื่อให้ได้เนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้อ่าน

คุณลักษณะเด่นของ FinancialField คือการมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 150 คน เช่น นักวางแผนการเงิน ทนายความ นักบัญชีที่ได้รับการรับรอง ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภาษี นักวิเคราะห์การลงทุน ที่ปรึกษาด้านอาชีพ ฯลฯ เป็นผู้เขียนและผู้ตรวจสอบบทความ ซึ่งทำให้หัวข้อที่ยาก เช่น บำนาญ ภาษี การสืบทอดทรัพย์สิน การประกันภัย และเงินกู้ ถูกถ่ายทอดอย่างเข้าใจง่าย

ด้วยวิธีการดังกล่าว ทีมที่มีประสบการณ์ในการแก้ไขและผู้เชี่ยวชาญในด้านการเงินและเศรษฐกิจจึงสามารถสร้างเนื้อหาที่ไม่เพียงเข้าใจง่าย แต่ยังน่าสนใจและให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้

เรามุ่งมั่นที่จะเป็นคอนเซียร์จด้านการเงินที่มอบไอเดียสำหรับชีวิตที่สะดวกสบายและดียิ่งขึ้น

supanat-kantha
การกำกับดูแล: สุภณัฐ คันธะ (สุภณัฐ คันธะ)

ประวัติการศึกษา
Assumption University
Major in Finance and International Business Management

ประวัติการทำงาน
ABeam Consulting 2013-2016
Business Analyst

Wealth Partners Group 2016-2024
Wealth Management Consultant
ที่ปรึกษาวางแผนการเงินและความมั่งคั่ง

– Tax Planning การวางแผนภาษี
– Retirement Planning การวางแผนเกษียณ
– Insurance Planning การวางแผนประกัน
– Investment Planning การวางแผนการลงทุน
– Education Planning การวางแผนการศึกษาบุตร
– Estate Planning การวางแผนส่งต่อมรดก

Certification
Assistant Financial Planner Thailand (AFPT) ตั้งแต่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน

ทำความรู้จัก บัตร เครดิต คืออะไร?

บัตรเครดิต คือ บัตรที่มีเอาไว้สำหรับการใช้จ่ายสินค้าแทนการใช้เงินสด หรือจะเรียกว่าเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลชนิดหนึ่ง ที่มีสิทธิประโยชน์หลากหลายก็ได้เช่นเดียวกัน โดยสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตนั้น จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของเครดิตแต่ละใบ ยกตัวอย่างเช่น ส่วนลดราคาสินค้า, การได้รับเครดิตเงินคืน, การสะสมแต้มเพื่อนำเอาไปแลกของกำนัลต่างๆ และการผ่อนสินค้า 0% เป็นต้น ซึ่งหลักการทำงานของบัตรเครดิต หากอธิบายให้เห็นภาพชัดๆ คือ การ “รูดก่อนค่อยจ่ายทีหลัง” นั่นหมายความว่า หากมีการใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าสินค้าหรือบริการตามความต้องการแล้ว ผู้ใช้บัตรฯ จะต้องทำการจ่ายค่าสินค้าหรือบริการที่รูดไปนี้เมื่อถึงเวลาจ่ายรอบบิลนั้นๆ (ช่วงสิ้นเดือน) หากมีการจ่ายยอดเต็มจำนวน ในระยะเวลาที่กำหนดหรือในรอบบิล จะไม่มีการคิดดอกเบี้ยเพิ่มแต่อย่างใด แต่หากไม่ได้ชำระคืนตามจำนวนเต็ม หรือไม่ตรงตามกำหนดเวลา อาจก่อให้เกิดดอกเบี้ยเพิ่มจากยอดที่ใช้จ่ายไปได้

ทำความรู้จัก บัตรกดเงินสด คืออะไร?

บัตรกดเงินสด คือ บัตรที่มีเอาไว้สำหรับการเบิกหรือถอนเงินสดตรงตามชื่อของบัตร ซึ่งบัตรกดเงินสดเองก็ถือเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทหนึ่งเช่นเดียวกันกับบัตรเครดิต โดยผู้ถือบัตรกดเงินสดนี้ จะสามารถทำการกดเงินสด หรือเบิกเงินสดตามวงเงินที่กำหนดเอาไว้ในบัตร ออกมาใช้จ่ายหรือเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับตัวเองได้ แต่สินเชื่อประเภทนี้จะเป็นสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุด โดยจะมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 25% เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเลือกใช้บัตรกดเงินสด ผู้ถือบัตรฯ จะต้องคำนึงถึงความจำเป็น และจะต้องคำนึงถึงความสามารถในการชำระคืนด้วย ว่าสามารถที่จะชำระคืนได้ครบตามจำนวนเงินที่กดมาหรือไม่ เพื่อป้องกันการเกิดดอกเบี้ยจำนวนมากจากการเบิกเงินสดมาใช้ล่วงหน้า

ข้อดีของการใช้บัตรเครดิต ที่ทำให้บัตรเครดิตดีกว่าบัตรกดเงินสด

สำหรับผู้ที่ทำความรู้จักบัตรทั้ง 2 แบบไปแล้ว แต่ยังมองไม่เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ยังไม่ทราบว่าการเลือกใช้ บัตร เครดิต นั้น ดีกว่าการเลือกใช้บัตรกดเงินสดอย่างไร เว็บไซต์ของเราได้ยกตัวอย่างข้อดีของการใช้บัตรเครดิตมาให้ 2 สถานการณ์ด้วยกัน เพื่อให้คุณผู้อ่านได้นำเอาไปใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกสมัครบัตรเครดิต

ตัวอย่างข้อดีของบัตรเครดิต สถานการณ์ที่ 1

หากคุณต้องการที่จะไปซื้อสินค้าที่มีความจำเป็น หรือต้องการที่จะเลือกซื้อสินค้าและบริการที่หน้าร้าน แต่ไม่สามารถที่จะใช้เงินสดมาซื้อได้ เนื่องจากในช่วงเวลานั้นคุณไม่มีเงินก้อนที่มากพอ หรือเพราะคุณต้องการที่จะเก็บเงินก้อนไปไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน คุณสามารถนำเอาบัตรเครดิตมาใช้ได้ 2 รูปแบบด้วยกันในสถานการณ์นี้
  • นำเอาบัตรเครดิตมารูดจ่ายสินค้าหรือบริการในราคาเต็ม และค่อยทำการจ่ายทีหลังเมื่อถึงกำหนดชำระตามรอบบิล
  • นำเอาบัตรเครดิตมารูดจ่ายสินค้าหรือบริการ แบบผ่อนชำระสินค้า ซึ่งรูปแบบการจ่ายนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อบัตรเครดิตของคุณร่วมโปรโมชันผ่อน 0% และการจ่ายในรูปแบบนี้ นอกจากช่วงสิ้นเดือนคุณจะไม่ต้องจ่ายชำระเต็มจำนวนแล้ว คุณสามารถที่จะจ่ายแบบผ่อนต่อเดือน โดยไม่เสียดอกเบี้ยได้ด้วย

ตัวอย่างข้อดีของบัตรเครดิต สถานการณ์ที่ 2

หากคุณต้องการที่จะซื้อสินค้าผ่านทางแอปพลิเคชันช้อปปิ้งออนไลน์ เพื่อที่จะกดใช้โค้ดส่วนลด แต่ปรากฏว่าคุณไม่สามารถที่จะกดโค้ดส่วนลดได้ทันที คุณสามารถนำเอาบัตรเครดิตมาใช้ได้ 2 รูปแบบด้วยกันในสถานการณ์นี้
  • หากนำเอาบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ มาใช้จ่ายแทนเงินสด อาจได้รับโค้ดส่วนลดเพิ่มจากบัตรเครดิตดังกล่าว
  • หากเป็นบัตรที่มีสิทธิประโยชน์ เกี่ยวกับการช้อปปิ้งออนไลน์โดยเฉพาะ คุณอาจได้รับทั้งโค้ดส่วนลด และเครดิตเงินคืน รวมถึงสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่จะไม่มีทางได้รับหากใช้เงินสดซื้อ

ค่าธรรมเนียมของบัตรเครดิต

ในกรณีที่คุณไม่ได้มีการค้างชำระ มีการจ่ายเต็มจำนวน และจ่ายตรงตามเวลาที่กำหนด ค่าธรรมเนียมของ บัตร เครดิต จะมีเพียงแค่ค่าธรรมเนียมรายปีเท่านั้น โดยค่าธรรมเนียมรายปีนี้จะมีการเรียกเก็บหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบัตรเครดิตแต่ละใบ ซึ่งผู้ถือบัตรฯ จะต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมของบัตรที่ตัวเองถือเอาไว้ด้วย แต่หากคุณไม่อยากเสียค่าธรรมเนียมรายปีของบัตรเครดิต คุณสามารถทำได้โดยการเลือกสมัครบัตรเครดิตที่มีเงื่อนไขในการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมได้ ยกตัวอย่างเช่น บัตรเครดิตที่มีการยกเว้นค่าธรรมเนียม หากมีการใช้จ่ายผ่านบัตรตามยอดที่กำหนด เป็นต้น

สรุปบทความ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง “บัตรเครดิต” และ “บัตรกดเงินสด” ที่เราได้นำเอามาฝากกันในวันนี้ คุณจะเห็นได้ชัดเลยว่าการใช้บัตรเครดิตนั้นหากใช้เป็น จะเป็นการใช้ที่เกิดประโยชน์ และได้รับความคุ้มค่าอื่นๆ ตามมาเพียบ และหากมีการวางแผนการเงินดี ชำระเต็มจำนวน ไม่เกินระยะเวลาที่กำหนด คุณจะไม่เสียเปรียบใดๆ แต่สำหรับบัตรกดเงินสดนั้น นอกจากจะไม่สามารถนำเอามาใช้ในการผ่อนสินค้าได้แล้ว หากมีการกดเงินสดออกมาใช้ คุณจะต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูงให้กับธนาคาร หรือสถาบันทางการเงิน ตั้งแต่ตัดสินใจเลือกกดเงินสดออกมา ดังนั้นในวันนี้เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณจะเข้าใจถึงความแตกต่างของบัตรฯ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลทั้ง 2 ประเภทนี้มากขึ้น และหากคุณต้องการสมัครบัตรเครดิต เพื่อนำเอาไปใช้จ่ายหรือผ่อนสินค้า สามารถเลือกสมัครผ่านทางเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเองทุกเมื่อ

บัตรกดเงินสด

  • บัตรกดเงินสด เอมันนี่ (A money)A money

    รายได้ต่อเดือน
    5,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    16-25%
  • ยูโอบี แคชพลัส (UOB Cash Plus)UOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    25%
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี
  • บัตรกดเงินสด เคเคพี แคชการ์ด (KKP Cash Card)

    รายได้ต่อเดือน
    10,000 บาท
    ดอกเบี้ยต่อปี
    ไม่เกิน 25%

บัตรเครดิต

  • UOB PrivimilesUOB

    รายได้ต่อเดือน
    70,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • UOB Lady’s PlatinumUOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • UOB Preferred PlatinumUOB

    รายได้ต่อเดือน
    15,000 บาท
    ค่าธรรมเนียมรายปี
    ฟรี มีเงื่อนไข
    อายุคะแนนสะสม
    2 ปี (นับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ)
  • A money
  • สินเชื่อ พรอมิส
  • Krungsri First Choice VISA

กลับสู่ด้านบน